นาฬิกาไซโก้
นาฬิกาไซโก้

เวลาเป็นสิ่งเดียวเท่านั้นที่เราทุกคนมีอย่างเท่าเทียมกัน เป็นความยุติธรรมสูงสุดที่มนุษย์เราได้รับจากโลกใบนี้ ซึ่งในสมัยอดีตก่อนที่เราจะมีนาฬิกาข้อมือผู้ชายผู้หญิงใช้นั้น มนุษย์อาศัยดูเวลาได้จากธรรมชาติ คือ สังเกตจากการขึ้นหรือการตกของดวงอาทิตย์ ซึ่งส่งผลให้โลกใบนี้ถูกแบ่งออกเป็น 2 เวลา นั่นคือ เวลากลางคืนกับเวลากลางวัน ซึ่งแสงจากดวงอาทิตย์นี้เองที่เป็นส่วนสำคัญของการสร้างเครื่องบอกเวลายุคแรก ๆ ของโลก นั่นคือ “นาฬิกาแดด” โดยอาศัยการสังเกตเงาที่เกิดจากแสงของดวงอาทิตย์ทอดยาวในแต่ละองศาผ่านอุปกรณ์ที่ถูกสร้างขึ้นมา

หลังจากที่มีการประดิษฐ์เครื่องบอกเวลาชิ้นแรก ต่อมามนุษย์ก็มีความคิดใหม่ผุดขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นการประดิษฐ์ “นาฬิกาน้ำ” ที่อาศัยการเจาะรูอุปกรณ์ที่นำไปวางลอยอยู่ในน้ำเพื่อให้น้ำค่อย ๆ ไหลเข้ามาจนกระทั่งทำให้อุปกรณ์จมมิดซึ่งถูกนับเป็นหนึ่งหน่วยเวลา แต่ก็มีข้อเสียในเรื่องของความไม่สะดวกต่อการใช้งานในฤดูอันหนาวเหน็บ ที่น้ำในเขตที่อากาศหนาวเย็นจนกลายเป็นน้ำแข็ง หรือจะเป็นการคิดค้น “นาฬิกาทราย” ที่อาศัยการไหลของทรายผ่านช่องเล็ก ๆ ของแก้วจนหมด หรือเครื่องบอกเวลาแบบเข็มที่ถูกคิดค้นขึ้นมาใช้งาน จนกระทั่งมีการพัฒนาผ่านกาลเวลาหลายยุค หลายสมัย มาจนกระทั่งถึงการถือกำเนิดขึ้นของนาฬิกาแบรนด์เนมชื่อดังอย่าง “ไซโก้” ซึ่งสินค้าภายใต้แบรนด์นี้ที่ถูกผลิตขึ้นก็มีทั้งแบบแขวน แบบพกพา และแบบข้อมือที่เป็นนาฬิกาไซโก้ผู้ชายและผู้หญิง

Seiko Watch

ประวัติของนาฬิกาไซโก้ เริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ.1881 เมื่อนายคินทาโร ฮัตโตริ ชายหนุ่มในวัย 22 ปี ได้เปิดร้านขายและรับซ่อมนาฬิกาขึ้น ณ ใจกลางกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และหลังจากนั้นอีก 11 ปีต่อมา ในปี ค.ศ.1892 เขาก็ได้ก่อตั้งโรงงานผลิตนาฬิกาที่มีชื่อว่า “ไซโกะชา (Seikosha)” โรงงานแรกของเขาเองขึ้นมา นับเป็นอุตสาหกรรมการผลิตนาฬิกาในยุคแรก ๆ ของแดนอาทิตย์อุทัยเลยก็ว่าได้ และด้วยความที่ราคาไม่ได้แพงมากแถมยังมีคุณภาพเทียบเท่ากับแบรนด์ที่ถูกนำเข้าจากประเทศทางแถบยุโรปอีกต่างหาก จึงทำให้นาฬิกาไซโก้ได้รับความนิยมแพร่หลายอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้เริ่มแรกเดิมทีนั้นโรงงานไซโกะชาผลิตแค่เพียงนาฬิกาแบบแขวน และแบบตลับพกพาเท่านั้น แต่ด้วยวิสัยทัศน์อันก้าวหน้าของคินทาโร ฮัตโตริ ทำให้เขาเริ่มต้นการผลิตนาฬิกาข้อมือผู้ชายและผู้หญิงขึ้นเป็นครั้งแรกของประเทศญี่ปุ่นในปี ค.ศ.1913 และได้รับผลตอบรับดีเกินคาดจากคนญี่ปุ่น ทำให้ยอดการจัดทำสินค้าของโรงงานเพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก และแม้ว่าจะเกิดวิกฤตการณ์จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวอย่างรุนแรงในปี ค.ศ.1923 ซึ่งส่งผลให้โรงงานหลักของไซโกะชาถูกเพลิงไหม้เสียหายอย่างรุนแรง แต่หากพอจะมองในแง่ดีได้อยู่บ้าง นั่นกลับเป็นโอกาสโดยการรีแบรนด์จากไซโกะชา มาเป็น “ไซโก้ (Seiko)” และหลังจากที่คินทาโร ฮัตโตริ ได้ให้ลูกชายทั้งสองคนของเขาซึ่งเป็นทายาทเข้ามารับช่วงต่อกิจการ ก็ได้มีการสลักชื่อไซโก้ไว้บนหน้าปัดของตัวเรือนที่ถูกผลิตขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1924 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของนาฬิกาไซโก้นาฬิกาแบรนด์เนมที่มีชื่อเสียงเป็นที่นิยมติดอันดับต้น ๆ ของโลกตั้งแต่วันนั้นจนถึงทุกวันนี้

อย่างไรก็ดีความสำเร็จอย่างมากมายของการผลิตนาฬิกาไซโก้ผู้ชายและผู้หญิง ส่งผลให้ทางแบรนด์ได้รับความไว้วางใจมากมายจากหลากหลายประเทศทั่วโลก เรียกได้ว่าเป็นบริษัทผลิตนาฬิกาแบรนด์หนึ่งที่สำคัญของทวีปเอเชียที่สามารถขึ้นไปเทียบชั้นกับนาฬิกาแบรนด์ดังต่าง ๆ จากทั่วโลกได้อย่างสมเกียรติสมศักดิ์ศรี ไร้ข้อครหาใด ๆ ทั้งสิ้น การันตีได้จากการที่นาฬิกาของไซโก้ได้รับความไว้วางใจนำไปใช้เป็นนาฬิกาสำหรับตัดสินการแข่งขันกีฬาระดับโลกอย่าง “โอลิมปิก” ที่ถูกจัดขึ้นในโตเกียว เมื่อปี ค.ศ.1964 หรือ “การจัดการกรีฑาชิงแชมป์โลก (IAAF World Championships in Athletics)” ครั้งที่ 2 ซึ่งถูกจัดขึ้นที่โรม ประเทศอิตาลี เมื่อปี ค.ศ.1987 และอีกหลาย ๆ การจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลก

พบกับแคมเปญ Summer sale วันที่ 5-31 พ.ค 2562 รับเงินคืนสูงสุด 200% ลุ้น coins cashback voucher จากเกมส์ Shopee quiz และเกมส์น้องใหม่อย่าง 1 บาทเกมส์ พร้อมบริการจัดส่งฟรี เมื่อช้อปครบ 99 บาท